โค๊ดต่างๆ

3animate 4animate 5animate 6animate 7animate 8animate 9animate 10 11animate 12animate 13animate

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยว " ศรีสะเกษ "

13 ที่เที่ยวศรีสะเกษ ดินแดนอีสานใต้มากเสน่ห์


 เที่ยวศรีสะเกษ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ดินแดนปราสาทขอมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
          จังหวัดศรีสะเกษหรือเมืองขุขันธ์ในสมัยก่อน หนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง "อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร" อัดแน่นด้วยวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยขอม แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัดดังสำหรับกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมาก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเสมอ วันนี้เราเลยแวะไปคัดเอาสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ ของศรีสะเกษมาเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่สนใจกัน ส่วนจะมีที่เที่ยวไหนห้ามพลาดกันบ้างไปชมกันเลย


1. อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

          อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 83 ของไทย ตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และด้วยเนื้อกว้างใหญ่กว่า 81,250 ไร่ ทำให้อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 2 จังหวัด คืออำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

          สิ่งที่น่าสนใจนอกจากทัศนีย์ภาพที่สวยงามของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดแล้ว ไฮไลท์หลักของที่นี่คือเป็นเส้นทางขึ้นสู่ปราสาทพระวิหาร อันเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และทรงคุณค่ายิ่งในเส้นทางประวัติศาสตร์

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.
          สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาที่อุทยานเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. และต้องเสียงค่าเข้าชม สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 200 บาท โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 4581 8021, 0 4581 6071, 08 1528 3268 หรือ park.dnp.go.th และอัพเดทข้อมูลได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร - ผามออีแดง

          ภายในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ผามออีแดง จุดชมวิวสวย ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติได้สุดสายตายาวไปจนถึงสามารถมองเห็นปราสาทเข้าพระวิหาร

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ภาพสลักนูนต่ำบริเวณหน้าผาใต้มออีแดง ซึ่งเป็นภาพเทพ 3 องค์ ขนาดเท่าคนจริง อายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี

          - สถูปคู่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพระธาตุ ทางทิศตะวันตกของผามออีแดง เป็นสถูปหินทราย 2 องค์ ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ มียอดมนคล้ายตะปูหัวเห็ด ข้างในเป็นโพรงใช้สำหรับบรรจุสิ่งของในสมัยโบราณ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ปราสาทโดนตวล เป็นปราสาทหินแบบขอม สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 ตั้งอยู่บริเวณบ้านภูมิซรอล ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์

          - เขื่อนห้วยขนุน เป็นอ่างเก็บน้ำชลประทาน และเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การเที่ยวชมธรรมชาติเป็นอย่างมาก

          - สระตราว หรือห้วยตราว เป็นธารน้ำอยู่ตรงบริเวณลานหินเชิงเขาพระวิหาร มีสายน้ำไหลผ่านถ้ำใต้เพิงหินลงสู่บริเวณที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีแนวหินซ้อนกั้นสายน้ำให้ไหลไปตามต้องการอย่างสวยงาม

          - น้ำตกและถ้ำขุนศรี ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของสระตราวใกล้เส้นทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ส่วนถ้ำขุนศรีภายในมี          ขนาดกว้าง เชื่อกันว่าเป็นที่พักของขุนศรี ขณะมาควบคุมการตัดหินบริเวณสระตราวเพื่อใช้สร้างปราสาทเขาพระวิหาร

2. วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก 2p2play / shutterstock.com
          วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อวัดล้านขวด ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านดอน ตำบลโนนสูง อำเภอบุญหาญ ที่มาของชื่อวัดล้านขวดนี้มาจากอาคารต่าง ๆ ภายในวัดตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า, ลานจอดรถ, โบสถ์, ศาลา, หอระฆัง, กุฏิ รวมไปถึงห้องน้ำภายในวัด ล้วนประดับตกแต่งไปด้วยขวดแก้วหลากหลายสีสันกว่า 1.5 ล้านใบ

          โดยได้แนวความคิดในการออกแบบมาจาก "พระครูวิเวกธรรมาจารย์" หรือ "หลวงปู่ลอด" ที่ได้เดินธุดงค์มาปักกลดภายในพื้นที่ป่าช้าหนองใหญ่ (ที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ่อขยะที่เต็มไปด้วยขวดแก้วจำนวนมาก ท่านจึงเห็นว่าควรนำขวดที่สีสันเหล่านี้มาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำไปตกแต่งอาคารภายในวัด นอกจากจะเป็นการกำจัดขยะแล้วยังประหยัดงบประมาณในการก่อสร้าง

          ต่อมาเมื่อวัดล้านขวดเป็นที่รู้จักมากขึ้นจึงมีชาวบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษ หรือจังหวัดใกล้เคียงนำขวดมาบริจาคจนมีอาคารต่าง ๆ   ถูกทยอยสร้างมากขึ้น จนกลายเป็นวัดดังและมีชื่อเสียงประจำจังหวัดศรีสะเกษดังเช่นในปัจจุบัน

3. วัดมหาพุทธาราม


ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก musisaket.go.th

          วัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาก่อนเมืองศรีสะเกษ โดยเดิมเรียกว่า "วัดป่าแดง" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีสะเกษ โดดเด่นด้วยวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ "หลวงพ่อโต" เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร เดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาจำหลัก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยขอมและมีอายุร่วมกว่าพันปี ซึ่งภายหลังได้ถือเอาพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์เป็นสำคัญ จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดพระโต" ตามลักษณะของพระพุทธรูป

          จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2494 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดมหาพุทธาราม" และได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย

4. วัดพระธาตุสุพรรณหงส์

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก golf bress / shutterstock.com
          วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ หรือวัดบ้านหว้าน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง ตั้งอยู่ห่างจาก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร อีกหนึ่งวัดสวยที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยความโดดเด่นของพระอุโบสถที่ก่อสร้างบนเรือสุพรรณหงส์จำลอง ลอยอยู่กลางน้ำอย่างสวยงามแปลกตา ตัวพระอุโบสถกว้าง 5 เมตร ยาว 13.60 เมตร หลังคาทรงจัตุรมุข 3 ชั้น มียอดมณฑปกลางอุโบสถ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และด้วยความสวยงามโดดเด่นของวัดแห่งนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

5. น้ำตกวังใหญ่

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          น้ำตกวังใหญ่ ตั้งอยู่เขตหมู่บ้านก่อ หมู่ 7 ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก อีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงาม รอบ ๆ บริเวณเต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีลำธารไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก มีความสูงประมาณ 5 เมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดแนวน้ำตก แถมบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรมากมายให้ผู้สนใจได้ศึกษา ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ชนิด ส่วนฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือฤดูฝนและฤดูหนาว

6. น้ำตกสำโรงเกียรติ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.
          น้ำตกสำโรงเกียรติ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ  81 กิโลเมตร ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าพนมดงรัก หมู่บ้านสำโรงเกียรติ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ ชื่อเดิมของหนึ่งตกแห่งนี้ออกจะน่ากลัวนิด ๆ กับ "น้ำตกปีศาจ" ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามหน่วยทหารพรานชื่อ "หน่วยปีศาจ" ที่ได้ใช้บริเวณน้ำตกตั้งเป็นฐานที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการ จากนั้นในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมเปลี่ยนชื่อน้ำตกตามชื่อหมู่บ้านว่า "น้ำตกสำโรงเกียรติ" ในปัจจุบัน

          ลักษณะเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลจากหน้าผาสูงกว่า 8 เมตร กระจายตัวเป็นม่านน้ำอย่างสวยงาม ส่วนด้านบนของน้ำตกจะเป็นธารน้ำที่ไหลไปตามลานหินท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนในบรรยากาศเย็น ๆ โดยช่วงเวลาสำหรับมาเที่ยวมากที่สุด คือตั้งแต่เดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ เวลา 08.30-16.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0 4451 4447

7. ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
          ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม (Sisaket Aquarium) แหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้สำคัญสำหรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ในท้องที่ตำบลหนองครก อำเภอเมือง อีกทั้งยังเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ด้วย

          ภายในอาคารมีการจัดแบ่งโซนเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งโซนปลาทะเล, ปลาน้ำจืด และปลาสวยงามด้วยพันธุ์ปลากว่า 100 ชนิด จัดอยู่ในตู้ปลาตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงตู้ปลาขนาดจอภาพยนตร์ โดยแต่ละตู้จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับปลาชนิดนั้น ๆ ไว้ให้อ่านให้ได้ความรู้ และเพลิดเพลินไปกับการชมปลาแหวกว่ายอยู่ภายในตู้ ส่วนไฮไลท์หลักที่ได้รับความสนใจคืออุโมงค์แก้วใต้น้ำ ระยะทาง 24 เมตรที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสความสวยงามของปลาอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ดำน้ำและให้อาหารปลาจากเจ้าหน้าที่ในเวลา 14.00 น. ของทุกวันอีกด้วย

          นอกจากนี้ยังมีบริการ "สปาปลา" ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส และบริการมุมของที่ระลึกให้ได้เลือกอุดหนุนก่อนกลับบ้านอีกด้วย โดยศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น.

          ทั้งนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โทรศัพท์ 045 612 686 หรืออัพเดทข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Sisaket Aquarium

8. ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่
ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          ตั้งอยู่ภายในวัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย มีลักษณะโดดเด่นด้วยปราสาทขอมขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยบาปวน-บายน ในพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเทวาลัยถวายพระศิวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู มีลักษณะเป็นพระปรางค์ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก ปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลางก่อสร้างด้วยหินทราย มีอิฐแซมบางส่วน บริเวณส่วนบนมีทับหลังจำหลักภาพพระอินทร์ทรงช้างบนแท่นเหนือหน้ากาล ส่วนปรางค์อีก 2 องค์ สร้างด้วยอิฐ มีส่วนประกอบตกแต่งที่เป็นหินทราย

          โดยสิ่งก่อสร้างทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง และศิลาทราย กว้าง 54 เมตร ยาว 62 เมตร มีโคปุระ หรือซุ้มประตู ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น วัดในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน โดยปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

9. ปราสาทบ้านปราสาท (ปราสาทห้วยทับทัน)

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.

          ปราสาทบ้านปราสาท (ปราสาทห้วยทับทัน หรือปราสาทบ้านโนนธาตุ) ตั้งอยู่ภายในวัดปราสาทพนาราม หมู่บ้านปราสาท ตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐาน "เทพเจ้าตีมูรติ" ตามความชื่อในศาสนาพราหมณ์ มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยศิลปะร่วมแบบคลัง-ปาปวน อันประกอบไปด้วยปรางค์อิฐ 3 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน เรียงตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ส่วนหน้าหันไปทางทิศตะวันออก บริเวณโดยรอบของปราสาทเต็มไปด้วยศิลาแลงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และมีโคปุระ (ซุ้มประตู) อยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันออก

          ภายในปรางค์องค์กลาง มีขนาดใหญ่กว่าพระปรางค์อีก 2 องค์เล็กน้อย ลักษณะของปรางค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว มีกรอบประตูหินทรายและมีทับหลังเป็นภาพบุคคลยืนอยู่เหนือหน้ากาล ส่วนพระปรางค์ 2 องค์ที่ขนาบข้างสร้างขึ้นภายในหลังและได้รับการดัดแปลงรูปแบบไปมาก มีลักษณะโดดเด่นด้วยประตูที่ก่ออิฐปิดตายทั้งสี่ด้าน แต่ยังปรากฏกรอบประตูหินทรายและชิ้นส่วนทับหลัง สลักภาพการกวนเกษียรสมุทรตกอยู่หน้าประตูปรางค์องค์ที่อยู่ด้านทิศใต้

          นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าหากชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางเข้ามากราบไหว้ หรือบนบานศาลกล่าวจะสมความปรารถนาทุกประการ และในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ก็มีการจัดงานประเพณีไหว้พระธาตุอีกด้วย

10. หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
          หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ หอคอยสูงสำหรับชมวิวสวยของตัวเมืองศรีสะเกษ ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ถนนขุขันธ์ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. โดยเสียค่าบำรุงสถานที่ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ กรุณาทำหนังสือส่งถึงนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษล่วงหน้าก่อนเข้าชม

          ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ โทรศัพท์ 045620211-4 หรือ เฟซบุ๊ก เทศบาลเมือง ศรีสะเกษ

          หมายเหตุ : เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร, ผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป, ผู้พิการ เข้าชมฟรี !! และพระภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี !! ในวันพระเท่านั้น

11. พระธาตุเรืองรอง

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก ททท.

          พระธาตุเรืองรอง ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง หมู่บ้านสร้างเรือง ตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยหลวงปู่ธัมมา พิทักษา เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับให้ชาวพุทธในถิ่นอีสานใต้ได้มาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีลักษณะเป็นอาคารที่ผสมผสานศิลปะแบบอีสานใต้จาก 4 เผ่า ได้แก่ ลาว, ส่วย, เขมร และเยอ ตัวพระธาตุเรืองรองมีความสูง 49 เมตร แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ดังนี้

          ● ชั้นที่ 1 เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแสดงวิถีชีวิตชนเผ่าลาว ส่วย เขมร และเยอ โดยมีหุ่นจำลองซึ่งแสดงถึงประเพณี วัฒนธรรมต่าง ๆ ในท้องถิ่น อีกทั้งบนขื่อคานยังมีภาพจิตรกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานและความเชื่อต่าง ๆ
          ● ชั้นที่ 2-3 เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านซึ่งจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือดักจับสัตว์ ตะเกียง แผ่นเสียง หนังสือ อาวุธ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ตามฝาผนังยังประดับไปด้วยภาพเขียนสวยงาม ซึ่งชั้นที่ 2 จัดแสดงภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ

          ● ชั้นที่ 3 เน้นการจัดแสดงภาพเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในจังหวัดศรีสะเกษ

          ● ชั้นที่ 4 ใช้เป็นจุดพักผ่อนก่อนขึ้นไปยังชั้นถัดไป

          ● ชั้นที่ 5 เป็นชั้นสำหรับทำสมาธิ

          ● ชั้นที่ 6 หรือชั้นสุดท้าย เป็นที่ประดิษฐานพระบรมเกศาธาตุของพระอรหันต์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นบ้านเรือน และท้องทุ่งเขียวขจีได้อย่างชัดเจน

          นอกจากนี้บริเวณโดยรอบพระธาตุยังมีการตกแต่งพื้นที่ โดยการสร้างแบบจำลองปูนปั้นปริศนาธรรม และแบบจำลองปูนปั้นประเพณี พิธีกรรมที่สำคัญของภาคอีสาน รวมทั้งมีการจัดสถานที่สำหรับการร่วมทำบุญโดยการบริจาค บูชาวัตถุมงคล และจำหน่ายของที่ระลึก ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาพระธาตุเรืองรองต่อไป เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

12. บ้านขุนอำไพพานิชย์

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก musisaket.go.th

ที่เที่ยวศรีสะเกษ
ภาพจาก musisaket.go.th

          ตึกขุนอำไพพาณิชย์ 
ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมือง บนถนนอุบล ลักษณะเป็นตึกเก่าของขุนอำไพพาณิชย์ (อินทร์ นาคสีหราช) คหบดีชาวศรีสะเกษ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2468 โดยช่างชาวจีนและชาวมอญ ตัวอาคารมีรูปทรงและลวดลายปูนปั้นที่งดงามตามคติความเชื่อของชาวจีน ได้รับการบูรณะและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการดี เด่นการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าไปเรียนรู้

13. สวนสมเด็จศรีนครินทร์




          เป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษา แห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ถนนกสิกรรม ตำบลหนองครก อำเภอเมือง มีเนื้อที่ 237 ไร่ ภายในบริเวณสวนโดดเด่นด้วยต้นลำดวน ต้นไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ที่ขึ้นตามธรรมชาติมากกว่า 50,000 ต้น ขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นดงใหญ่ แถมยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการมาทัศนศึกษาในเชิงพฤกษศาสตร์ ซึ่งต้นลำดวนถือเป็นพันธุ์ไม้หอม จะผลิดอกหอมอบอวลไปทั่วในราวเดือนมีนาคมของทุกปี และเนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับชื่อศรีนครลำดวนในอดีต จึงได้นำเอาต้นลำดวนมาเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดในปัจจุบัน


          นอกจากนี้ในพื้นที่สวนยังมีสวนสัตว์ซึ่งรวมทั้งสัตว์ป่าของไทยและต่างประเทศ จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม และสวนสาธารณะตกแต่งสวยงามร่มรื่น เป็นแหล่งพักผ่อนของประชาชนทั่วไป มีบึงน้ำสำหรับพายเรือเล่นและพักผ่อนหย่อนใจ โดยเปิดให้เข้าชมและพักผ่อนทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.

          นี่เป็นเพียงที่เที่ยวศรีสะเกษบางส่วนที่เราหยิบมาแนะนำกัน เป็นตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดศรีษะเกษ ได้แวะไปเที่ยวชมปราสาทที่มีศิลปะสวย ๆ แบบขอมโบราณ ชมวิวและสายหมอกธรรมชาติ และเย็นฉ่ำไปด้วยน้ำตกสวย ๆ รวมทั้งสักการะวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตอีกด้วย         

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
i-san.tourismthailand.orgmusisaket.go.thmusisaket.go.thเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร - ผามออีแดงเฟซบุ๊ก ที่นี่ ศรีสะเกษเฟซบุ๊ก เทศบาลเมือง ศรีสะเกษ

สถานที่เที่ยวจังหวัด " สุรินทร์ "



 งานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ 2559 ชมความอลังการของงานแสดงช้างที่ใหญ่ที่สุดในไทย ในวันที่ 16-27 พฤศจิกายน 2559 ณ บริเวณสนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 

          จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญร่วมชมการแสดงสุดตระการตาใน "งานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 56" ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 16-27 พฤศจิกายน 2559 รวม 13 วัน ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ (งานแสดงช้างในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08.00-12.00 น. ณ สนามแสดงช้างสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป

งานช้างสุรินทร์
ภาพจาก ททท.
          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ และชาวสุรินทร์ ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงงาน "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์" ปี 2559 กับกิจกรรมทางการท่องเที่ยวอันหลากหลาย เช่น ขบวนแห่รถตกแต่งอาหารช้าง ไม่ว่าจะเป็นผัก-ผลไม้นานาชนิด ที่ผู้จัดทุ่มเทแรงกายแรงใจจัดให้เป็นอาหารช้างที่สวยสดงดงาม 

          วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ชมขบวนแห่ช้างเข้าเมือง ที่ช้างกว่าสองร้อยเชือกจะเดินไปตามท้องถนน (ถนนธนสาร) ผ่านใจกลางเมืองสุรินทร์ไปยังสถานที่เลี้ยงต้อนรับช้าง 

          วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ร่วมพิธีต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ด บันทึกไว้ว่าเป็น "บุฟเฟ่ต์อาหารช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินและสุขใจกับการป้อนอาหารช้างถึง 60 ตัน ช้าง 288 เชือก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง

          วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2559 ชมงานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ตำนานการสร้างปราสาทศีขรภูมิ ณ ปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ (ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร) 

งานช้างสุรินทร์
ภาพจาก ททท.
          พลาดไม่ได้กับการแสดงช้างสุรินทร์สุดยิ่งใหญ่อลังการสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการจำลองวิถีชีวิตคนเลี้ยงช้าง ความสามารถและความน่ารักของช้างสุรินทร์ ไม่ว่าจะเป็นการจำลองการคล้องช้างป่า พิธีเซ่นไหว้ศาลปะกำ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสานใต้ การจำลองฉากยุทธหัตถี ฯลฯ โดยผู้ชมทุกท่านสามารถร่วมกิจกรรมความสนุกสนานกับช้างสุรินทร์ได้อย่างเต็มอิ่ม และสุขใจไปกับประสบการณ์ในครั้งนี้ พร้อมที่จะหลงรักช้างสุรินทร์ด้วยกัน ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ (วันละ 1 รอบเท่านั้น)

งานช้างสุรินทร์
ภาพจาก ททท.
          นอกจากนี้จังหวัดสุรินทร์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันน่าสนใจ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งช่วงงานกิจกรรม ได้แก่
        
          - หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ชมวิถีชีวิตของคนเลี้ยงช้าง ซึ่งเลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว และพบกับความน่ารักและแสนรู้ของโขลงช้างกว่า 300 เชือก

          - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ ชื่นชมและศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับจังหวัดสุรินทร์ ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ ชาติพันธุ์ โบราณคดี ประวัติศาสตร์เมืองแบบ 360 องศา ผ่านสื่อจำลองที่ทันสมัยที่สุดในอีสานใต้

          - หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง ชมศิลปะการถักทอเส้นไหมสลับซ้อนดิ้นทอง ผสมผสานลายราชสำนักโบราณอันอ่อนช้อย วิจิตรงดงาม ร่วมสัมผัสกระบวนการทอผ้าไหม อันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมทั้งเรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ให้ติดแน่นทนนาน

          - วนอุทยานพนมสวาย สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง ได้แก่ พระพุทธสุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ อัฐิหลวงปู่สวน (พระครูพนม ศิลาคุณ) ปราสาทหินพนมสวาย เจ้าแม่กวนอิม เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมร่วมเคาะระฆังศักดิ์สิทธิ์ 1,080 ใบ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว 

          - กลุ่มปราสาทตาเมือน กลุ่มโบราณสถานปราสาทหินสามหลัง สามแบบในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ที่เป็นจุดพักของนักเดินทางในครั้งอดีตตามแนวบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

          ราคาบัตร 500 บาท และ 1,000 บาท สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายอำนวยการ โทรศัพท์ 0 4451 2039 (ในวันเวลาราชการ) หรือที่ surin.go.th 
งานช้างสุรินทร์
          ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์ 0 4451 2039, 0 4452 1358, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์ 0 4451 1975 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทรศัพท์ 0 4451 4447-8 โทรสาร 0 4451 8530 อีเมล tatsurin@tat.or.th พร้อมทั้งสามารถอัพเดทความเคลื่อนไหวของงานผ่านทางเว็บไซต์ และ เฟซบุ๊ก Amazing Surin Elephant มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ และ เฟซบุ๊ก TATSurinOffice
           หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ข้อมูล ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2559 


เข้าพรรษาชวนอิ่มบุญใหญ่ ตักบาตรบนหลังช้าง ณ จังหวัดสุรินทร์


   การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมชมและตักบาตรสร้างบุญเข้าพรรษา ในงาน "มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์" ประจำปี 2558 ในวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2558 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทย รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

          ภายในงาน "มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์" ประจำปี 2558 มีกิจกรรมอันโดดเด่นหลากหลายตั้งแต่ในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 ชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตกแต่งอย่างสวยงาม วิจิตรอลังการจาก 12 คุ้มวัดชื่อดังในจังหวัด เช่น วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ วัดศาลาลอยพระอารามหลวง วัดกลางสุรินทร์ ฯลฯ ชมขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุรินทร์จากนักแสดงนับร้อยชีวิต พร้อมขบวนแห่ช้างที่ยิ่งใหญ่นับ 87 เชือก ไม่ว่าจะเป็นขบวนช้างประดับสวยงาม ขบวนช้างเทิดพระเกียรติ ขบวนช้างพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นต้น

เข้าพรรษาชวนอิ่มบุญใหญ่ ตักบาตรบนหลังช้าง ณ จังหวัดสุรินทร์

          และพลาดไม่ได้กับไฮไลท์งานบุญใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตแก่นักท่องเที่ยวให้ได้ร่วมใส่บาตรกันทุกคน

เข้าพรรษาชวนอิ่มบุญใหญ่ ตักบาตรบนหลังช้าง ณ จังหวัดสุรินทร์

          นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง อำเภอเมือง เรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีผ้าไหมจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ และตื่นตาไปกับศิลปะการถักทอเส้นไหมอันสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณ จำนวน 1,416 ตะกอ หมู่บ้านช้าง อำเภอท่าตูม เรียนรู้วิถีชีวิตชาวกวยหรือกูย ความสัมผัสความผูกพันระหว่างคนกับช้าง ที่เลี้ยงช้างเป็นเสมือนดั่งสมาชิกในครอบครัว มากกว่าการเลี้ยงมุ่งเน้นการเลี้ยงช้างไปเพื่อการงานหรือธุรกิจ ปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ ชมภาพสลักนางอัปสราหินทรายที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย

          สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายอำนวยการ โทร. 044-512039 เว็บไซต์ www.surin.go.th, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร. 044-511975 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ โทร. 044-514447-8 หรือ TAT Call Center 1672
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

เที่ยวงานทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์ ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร


 เที่ยวงานทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์ ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร ร่วมชิม ช้อป และแชร์กันอย่างเต็มที่
          เชิญชวนเที่ยวงาน “ทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์” ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมดอกทานตะวันสวย ๆ รวมถึงได้ช้อป ชิม และแชร์ประสบการณ์สุดแสนประทับใจ นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ เหมาะจูงมือคนรัก เพื่อน และครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้กัน

ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์
          งาน "ทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์" ครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตร ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมและเรียนรู้วิถีแห่งเกษตรกรรมของไทย ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายในมีแปลงสาธิตการปลูกพืชต่าง ๆ เช่น แปลงข้าวโพด แปลงแคนตาลูป แปลงแตงโม รวมถึงทุ่งทานตะวันที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560

ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์

ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์

ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์

          ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของดอกทานตะวัน ได้ช้อปผลผลิตทางการเกษตร และของที่ระลึกมากมาย ได้ชิมอาหารแปรรูป เช่น ซูชิข้าวหอมมะลิ ไส้อั่วเห็ด ปลาส้มรสเด็ด และขนมพื้นบานอีสาน เป็นต้น รวมถึงยังได้สนุกกับการแชร์ประสบการณ์สุดประทับใจ ร่วมสนุกและหาความรู้จากกิจกรรมภายในศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร

ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์
ทุ่งทานตะวัน บ้านไซร์

          ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทรแห่งนี้ จึงเป็นตัวอย่างการน้อมนำเอาแนวพระราชเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่เกษตรกรในการพัฒนาอาชีพหลัก และสร้างรายได้จากอาชีพเสริม ตลอดจนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ ให้เราได้เที่ยวกัน ใครที่อยากมาถ่ายรูปกับต้นทานตะวันสวย ๆ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด งานนี้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร โทรศัพท์ 081 076 5498, 086 035 9038 หรือ เฟซบุ๊ก ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร